RML เปิดตัว ‘OCC’ อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทย เต็มรูปแบบ ดึงแบรนด์ F&B และไลฟ์สไตล์ชั้นนำร่วมสร้างประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ที่มากกว่าเดิมในฐานะ Lifestyle Destination แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ | Raimon Land
News and Activities
25 มกราคม 2567

RML เปิดตัว ‘OCC’ อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทย เต็มรูปแบบ ดึงแบรนด์ F&B และไลฟ์สไตล์ชั้นนำร่วมสร้างประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ที่มากกว่าเดิมในฐานะ Lifestyle Destination แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

RML (บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน) ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ชั้นนำของไทย จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับ ‘OCC (One City Centre)’ อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่สูงที่สุดในไทย ทำเลใจกลาง CBD ที่มีสกายวอล์กเชื่อมกับ BTS เพลินจิต โปรเจกต์ยักษ์ที่ร่วมทุนกับ มิตซูบิชิ เอสเตท (ประเทศไทย) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของญี่ปุ่น และผู้ร่วมทุนของ OCC มูลค่าโครงการ 8,800 ล้านบาท ล่าสุดประกาศความสำเร็จ โดยพื้นที่ออฟฟิศอย่างเดียวยอดเช่าประมาณ 55% และพื้นที่รีเทลอย่างเดียวยอดเช่าประมาณ 90% ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร พรีเมียม ฟู้ดคอร์ท Sky Bar ชั้นบนสุดของอาคาร ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มเป้าหมาย เตรียมขึ้นแท่นเป็นอาคารสำนักงานลักชัวรี่ที่มอบไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบแห่งใหม่ใจกลางเพลินจิต

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML เผยว่า “อาคารสำนักงาน Grade A+ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยมีอุปทาน (Supply) ใหม่ทยอยเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น จากอุปสงค์ (Demand) ของบริษัทต่างประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจากงานวิจัยของที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ระบุว่าในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา อาคารสำนักงาน Grade A+ ทำเล CBD มีพื้นที่เช่ารวมทั้งหมดประมาณกว่า 460,000 ตร.ม. โดย 3 อันดับทำเลที่มีพื้นที่เช่ามากที่สุด คือ โซน เพลินจิต – ชิดลม พื้นที่เช่าประมาณ 120,000 ตร.ม. อัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 85% อันดับ 2 โซน สีลม – สาทร พื้นที่เช่าประมาณ 110,000 ตร.ม. อัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 75% และ อันดับ 3 โซนสยาม พื้นที่เช่าประมาณ 50,000 ตร.ม. อัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 40% จะเห็นได้ว่า โซน เพลินจิต – ชิดลม มีอุปทานพื้นที่เช่ามากที่สุด และมีอัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณมากที่สุดถ้าเทียบกับทำเลอื่นๆ ใน CBD ด้วยกัน ทั้งนี้คาดว่าในปี 2567 จะมีอุปทานใหม่ของอาคารสำนักงาน Grade A+ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุปทานรวมของตลาดนี้เพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 370,000 ตารางเมตร”

“โซนเพลินจิต – ชิดลม เป็นโซนที่บริษัทขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างชาติยังคงต้องการสำหรับเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เพราะเป็นโซนที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจเก่าแก่ รายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์พรีเมียม ดังนั้นจึงส่งผลให้ ‘OCC’ อาคารสำนักงานลักชัวรี่ Grade A+ ที่เป็นอาคารแห่งใหม่ล่าสุดในโซนนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดย ‘OCC’ มีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 61,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่สำนักงานประมาณ 57,000 ตร.ม. และพื้นที่ค้าปลีก (รีเทล) ประมาณ 4,000 ตร.ม. ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานจากบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกและบริษัทชื่อดังในไทย ประมาณ 55% ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานเกินกว่า 70% ในขณะที่มีอัตราการเช่าพื้นที่รีเทลจากร้านค้าพรีเมียมแล้วเกือบเต็ม อยู่ที่ประมาณ 90% เหลือเพียงไม่กี่ยูนิตเท่านั้น คาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่รีเทลจะเต็ม 100% ในปี 2567 นี้แน่นอน” นายกรณ์ กล่าวเสริม

สำหรับบริษัทที่เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่สำนักงาน ‘OCC’ ล้วนเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นที่รู้จักในไทยจากหลากหลายธุรกิจ ทั้งธุรกิจเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซ, โค-เวิร์คกิ้งสเปซ ตลอดจนธุรกิจการเงิน และธุรกิจบริการ ซึ่งบริษัทที่สามารถเปิดเผยชื่อได้แล้ว เช่น เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) (The Boston Consulting Group (Thailand)), แปซิฟิค ไพร์ม คอนซัลแตนท์ (Pacific Prime Consultants), คอนสเตลเลชัน นอร์ด (Constellation Nord), ดีแอลเอ ไปเปอร์ (DLA Piper), ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas), 10 บริดจ์ (10 Bridge), เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น (Waylar Corporation), บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด (Mitsubishi Estate (Thailand) Co., Ltd.), บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำกัด (Mitsubishi Heavy Industries (Thailand) Ltd.), บริษัท มิตซูบิชิ พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mitsubishi Power (Thailand) Ltd.), บริษัท มารูเบนิ ประเทศไทย จำกัด (Marubeni Thailand Co., Ltd.), ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) CBRE (Thailand), อมาเดอุส เอเชีย (Amadeus Asia), คอร์ติน่า วอทช์ (Cortina Watch), บริษัท โคคูโย อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (KOKUYO International (Thailand) Co., Ltd.), บริษัท นิฮอน เอ็ม แอนด์ เอ เซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Nihon M&A Center (Thailand) Co., Ltd.), รวมถึง จัสโค (JustCo) ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นชั้นนำของเอเชีย ตั้งอยู่บนชั้น 37 ถึง 40 ของอาคาร OCC โดย JustCo ได้เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา โดยมีแผนต่อขยายพื้นที่ในอาคารภายในปี 2567

‘OCC’ เป็นมากกว่าที่ทำงาน แต่มีพื้นที่สำหรับแฮงเอ้าท์ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ชื่อดัง ให้ชาวเพลินจิตได้พักผ่อนหย่อนใจ โดยปัจจุบันมีร้านค้าเปิดให้บริการเกือบเต็มพื้นที่แล้ว และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2567 ร้านใหม่ล่าสุดที่เปิดให้บริการ ได้แก่ ร้านกรีน แอนด์ บีน (Green & Been) ซึ่งเปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย โดยเป็นร้านคาเฟ่ที่โดดเด่นด้วยเมล็ดกาแฟสุดพิเศษและวัตถุดิบชาเขียวพรีเมียม นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการร่วมสร้างสรรค์โดยผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อดังก้องโลกคือ ‘เชฟกากั้น อนันต์ (Gaggan Anand)’ เจ้าของห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว ที่ครองตำแหน่งอันดับ 1 ของ Asia's 50 Best Restaurants ถึงสี่ปีซ้อน ร่วมกับ ‘เชฟแฝดชาวเยอรมันโธมัสและ แมทธิอัส ซูห์ริง (Thomas & Mathias Sühring)’ ที่โด่งดังจากร้านอาหารเยอรมันที่เคยได้รับดาวมิชลิน และ ‘อนุพงศ์ คุตติกุล (Anupong Kuttikul)’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Carnival มัลติแบรนด์ช็อปและแบรนด์เสื้อผ้าสตรีทแวร์สัญชาติไทย, ร้านเอนิชิ (ENISHI) ราเมนที่คนญี่ปุ่นแนะนำ การันตีด้วย มิชลิน บิบ กูร์มองด์ ซึ่งจะเปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย ที่ OCC ในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้, ร้านซูชิ ชิมะโมโตะ (Sushi Shimamoto) ร้านโอมากาเสะชื่อดัง ซึ่งจะเปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทย ให้บริการในไตรมาส 2 นี้ อีกทั้งยังมีร้านต่างๆ มากมายที่เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา คือ ดีน แอนด์ เดลูก้า (DEAN & DELUCA) ร้านกาแฟดังที่ถือกำเนิดมากจากอเมริกา, โอ บอง แปง (Au Bon Pain) ร้านกาแฟกึ่งเบเกอรี่ ชื่อดังจากอเมริกา, %อาราบิก้า (%Arabica) คาเฟ่ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น, กาซาน่า (Ksana) คาเฟ่ชาเขียว มัทฉะเข้มข้นชื่อดังจากญี่ปุ่น, แบลคโบบา สเปเชียลตี้ (BLK.BOBA Specialty) ร้านชานมไข่มุกออร์แกนิคชื่อดัง, และ ลอว์สัน (Lawson) ร้านสะดวกซื้อชื่อดังจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมี กินนี่ฟู้ด (Kinnie Food) ฟู้ดคอร์ทในราคาที่จับต้องได้ รองรับพนักงานออฟฟิศย่านเพลินจิต รวมถึงผู้คนทั่วไป ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมากในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญบนชั้น 61 และ 58 บาร์และห้องอาหารหรู ซึ่งจะเปิดให้บริการไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ โดยพัฒนาจากบริษัท อัคร ฮอสพิแทลลิตี้ จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านอาหารและความบันเทิงอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ผู้สร้างชื่อเสียงวงการอาหารและเครื่องดื่มไทยมากมายอีกด้วย โดยมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางใหม่ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแน่นอน

ปัจจัยที่ OCC ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากโครงการออกแบบตอบโจทย์ให้ผู้ใช้งานอาคารในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด 'REIMAGINE YOUR WORLD' ครอบคลุมทั้ง

  • Reimagined Journey in and Out สะดวกสบายทุกการเดินทาง มีสกายวอล์กเชื่อมกับ BTS เพลินจิต ใกล้ MRT อโศก เพียง 10 นาที และใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เพียง 200 เมตร
  • Reimagined Daily Work Rhythm ด้วยเทคโนโลยี Smart Building ที่ทันสมัย ตั้งแต่แอปพลิเคชั่นมือถือสำหรับเข้า-ออกอาคาร ระบบไร้สัมผัสภายในอาคาร ระบบเรียกลิฟท์ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ระบบจดจำเลขทะเบียนรถยนต์ และระบบการจ่ายเงินค่าที่จอดรถ
  • Reimagined Office Space Possibilities OCC ออกแบบฟังก์ชั่นเพื่อการทำงาน และคำนึงถึงสุขภาวะที่ดีของผู้เช่า ด้วยจุดเด่น คือ ไม่มี ‘เสากลาง’ ออกแบบสำนักงานได้อย่างเต็มที่ เพิ่มปริมาณการจ่ายอากาศบริสุทธิ์ในพื้นที่มากกว่ามาตรฐานถึง 30% มีระบบการกรองอากาศแบบ MERV14 ซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 กระจก 3 ชั้น Insulated Glazing Windows กรองแสงแดด และกรองเสียงได้ เน้นใช้วัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้อาคารทั้งในแง่สุขภาพและความปลอดภัย
  • Reimagined Retail and Food Selection ไลฟ์สไตล์เดสทิเนชั่นระดับโลก ด้วยร้านค้าในพื้นที่ค้าปลีก บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ที่คัดสรรมาอย่างเหนือระดับ รวมทั้งรูฟท็อปเดสทิเนชั่น บนชั้น 58 และ 61 บาร์และห้องอาหารหรู พร้อมทิวทัศน์กรุงเทพฯ แบบพาโนรามา 360 ที่สูงที่สุดกลางแยกเพลินจิต
  • Reimagined Daily Green Intake พื้นที่สีเขียวทั้งภายในและนอกอาคารกว่า 5,000 ตารางเมตร

OCC ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากหลากหลายสถาบัน ล่าสุดผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED Certification ในระดับ Gold Certified ในฐานะอาคารที่อนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council :USGBC) เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังได้รางวัล Fitwel โดย Center for Active Design (CfAD) จากสหรัฐอเมริกาในระดับ 2 ดาวในฐานะอาคารที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นด้านคุณภาพ และรางวัลการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งปี (Office Development of the Year) จากเวที Real Estate Asia Awards 2021 ในไทย ด้วยนวัตกรรมการจัดการโครงการที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจเช่าพื้นที่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนขาย CBRE โทร. 02-119-2707, 089-010-5410 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://bit.ly/41Q81uV, www.onecitycentrebangkok.com.